
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17:45:12 น.
มติชนออนไลน์
คณาจารย์จุฬา ออกแถลงการณ์ ค้าน ศอฉ. คุมตัว"สุธาชัย"ที่ค่ายทหารสระบุรี ชี้คุกคามเสรีภาพวิชาการ
คณาจารย์จุฬา ออกแถลงการณ์ ให้รัฐบาล-ศอฉ. รีบยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ล่อแหลมต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนจนเกินขอบเขต ชี้คุกคามสิทธิเสรีภาพบุคคล-วิชาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ว่า คณาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในนามคณาจารย์ผู้ห่วงใยในสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย นำโดยนายฉลอง สุนทรวานิช หัวหน้าภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และนายนายสุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติวิธีฯ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องความเป็นธรรมและเสรีภาพทางวิชาการ ระบุว่า

ตามที่เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามหมายจับในความผิดตาม พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 11 (1) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น และต่อมาถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ศูนย์การทหารม้าค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี ดังปรากฏเป็นข่าวที่รับทราบทั่วกันแล้วนั้น
คณาจารย์ผู้ห่วงใยในสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยและนักวิชาการผู้เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพของอาจารย์สุธาชัยขอแสดงความกังวลต่อการใช้ข้อหาดังกล่าวในการออกหมายจับและควบคุมตัวอาจารย์สุธาชัยดังนี้
ประการแรก แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีอำนาจดำเนินการดังกล่าวตามพ.ร.ก. แต่ก็เป็นที่ปรากฏชัดเช่นกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งไม่มีและไม่เคยเปิดเผยหลักฐานชัดเจนหนักแน่นใดๆ อันเป็นองค์ประกอบของฐานความผิดดังกล่าว ที่เป็นเหตุของข้อกล่าวหารุนแรงข้างต้น ให้ผู้ถูกกล่าวหาและสาธารณชนได้รับรู้ การกระทำดังกล่าวนับเป็นการลิดรอนคุกคามเสรีภาพของบุคคล และโดยเฉพาะในกรณีของอาจารย์สุธาชัย ยังเป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการอีกด้วย
ประการที่สอง แม้การใช้อำนาจตามความในพ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นไปเพื่อการระงับสถานการณ์ฉุกเฉิน เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของบ้านเมือง และนำสังคมไทยกลับสู่ภาวะปกติ แต่การใช้อำนาจดังกล่าวอย่างครอบคลุมไม่แยกแยะ ปราศจากหลักฐานความผิดที่หนักแน่นชัดเจน ทั้งในกรณีของอาจารย์สุธาชัย และกรณีอื่นๆ มิอาจสร้างสังคมแห่งการปรองดองสมานฉันท์ดังที่รัฐบาลและ ศอฉ. มุ่งหวังและยังอาจนำไปสู่การเพิ่มความหวาดระแวง ความกลัว ความเกลียดชัง และความโกรธแค้น ในสังคมไทยให้ขยายตัว ทวีความเข้มข้นแหลมคมมากขึ้น อันยืนยันได้จากประสบการณ์ทางสังคมและการเมืองของไทยเองในช่วงทศวรรษ 2500-2520
ทั้งนี้ คณาจารย์ฯและนักวิชาการผู้เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพของอาจารย์สุธาชัย มีความเห็นว่า ทั้งในกรณีของอาจารย์สุธาชัยและกรณีอื่นๆ ที่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้ง สมควรที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวคืนเสรีภาพให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาโดยเร็ว
อนึ่ง คณาจารย์ฯและนักวิชาการผู้เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพของอาจารย์สุธาชัย ใคร่ขอเสนอไปยังรัฐบาลและ ศอฉ. ให้เร่งพิจารณายกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ ซึ่งล่อแหลมต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนจนเกินขอบเขต เพื่อให้การจัดการต่อผู้กระทำผิดเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมดังที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
------------------------
(ก่อนหน้านี้)
“สมยศ-สุธาชัย” เข้ามอบตัวกองปราบ ก่อนส่งศูนย์การทหารม้าสระบุรีวันที่
24/05/2553 14:05
แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่ นายสมยศ ถูกออกหมายจับฐานปราศรัยปลุกระดมให้มีการชุมนุมกลุ่ม นปช.รอบใหม่ ในวันที่ 24 มิถุนายน ส่วน นายสุธาชัย ถูกออกหมายจับฐาน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ อ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีร่วมเคลื่อนไหวและปราศรัยหน้าห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว ในนามกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย
นายสมยศ กล่าวว่า วันนี้ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ร่วมชุมนุมนั้น เป็นการรำลึกการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งมีการจัดกิจกรรมทุกปี เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และการที่รัฐบาลอนุมัติศาลออกหมายจับนั้น เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะยืนยันว่า กลุ่ม 24 มิถุนาฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
ขณะที่ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการควบคุมตัว แต่เชิญบุคคลทั้งสองมาสอบถามความเห็น ซึ่งหลังสอบปากคำแล้วเสร็จจะนำตัวไปที่ ศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่อาจพิจารณาปล่อยตัวก่อนครบกำหนด 7 วัน หากสอบสวนแล้วพบว่า บุคคลทั้งสองไม่มีเจตนาก่อความวุ่นวาย
-------------
(ก่อนหน้านี้)
บุกค้นบ้านพัก ‘สุธาชัย’ สั่งรายงานตัว ศอฉ.พรุ่งนี้
23 พ.ค.53 รายงานข่าวแจ้งว่า ในตอนเช้า เช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างอำนาจ ศอฉ.บุกค้นบ้านพัก รศ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ อย่างไรก็ตาม ขณะบุกค้น รศ.สุธาชัย ไม่อยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งกับทางบ้านว่า ศอฉ. มีคำสั่งให้นักวิชาการท่านนี้เข้ารายงานตัวในตอนเช้าของวันที่พรุ่งนี้ (24 พ.ค.)
วันเดียวกัน สมัชชาสังคมก้าวหน้า และกลุ่มนักวิชาการจัดให้มีการประชุมเพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แต่การประชุมต้องล่มเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าทำการแจ้งและมิยอมให้มีการประชุม โดยอ้างอำนาจของ ศอฉ.
------------------
(ก่อนหน้านี้)
จันทร์นี้ศอฉ.สั่งให้ตำรวจรับตัว ดร.สุธาชัย มาสอบเพิ่มเป็นครั้งที่ 2 โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์23 พฤษภาคม 2553
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่า ดร.สุทธาชัย ยิ้มประเสริฐ ได้รับหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง โดยมีรายละเอียดดังนี้: -
เช้าวันอาทิตย์นี้ มีตำรวจพร้อมหมายค้นมาค้นบ้าน อาจารย์ ดร.สุทธาชัย ยิ้มประเสริฐ ที่บ้านแต่อาจารย์ไม่อยู่ จึงฝากคำสั่ง ศอฉ.ไว้กับคุณแม่ว่าจะส่งรถตำรวจมารับอาจารย์จากที่บ้านไปสอบเพิ่มเช้าวันจันทร์เวลา 9.00 น. คาดว่าจะถึงกองบัญชาการกองทัพบกเวลา 10.00 น. ขอเชิญมิตรสหายไปให้กำลังใจด้วย
ปัจจุบัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุธาชัยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯกรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา กรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโทเรื่องกระบวนการทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ครั้งที่ 2 (2490-2500) และได้รับทุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระดับปริญญาเอก สาขาวิชาเอก Portuguese History สถาบันการศึกษา UNIVERSITY OF BRISTOL ประเทศ สห
ราชอาณาจักร (อังกฤษ)วิทยานิพนธ์ The Portuguese Lancados in Asia
ผลงาน วิจัย/วิชาการ* 60 ปี ประชาธิปไตยไทย ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน* เหตุการณ์ 6 ตุลาเกิดขึ้นได้อย่างไร* "ประวัติศาสตร์จิตรกรรมและปฏิมากรมไทย"ใน โครงการ สัตตศิลปะ ด้วยทุนสนับสนุนจากบริษัทปูนซีเมนต์ไทย
--------------------
(ก่อนหน้านั้)
7 พฤษภาคม 2553 13:43
ฟ้อง'นายกฯ-สุเทพ-โฆษกศอฉ.'ใส่ร้ายล้มเจ้าโดย
: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"สุธาชัย"ฟ้องอาญา-แพ่ง"อภิสิทธิ์-สุเทพ-โฆษกศอฉ."ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หมิ่นประมาท ย้ำแจกใบปลิวแถลงข่าวมีชื่อติดโผขบวนการล้มเจ้า
วันนี้ (7 พ.ค.53) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก-นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมายื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี , นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนายการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83 , 90 ,157 และ มาตรา 328
ตามฟ้องโจทก์ ระบุว่าเมื่อระหว่างวันที่ 27-28 เม.ย. 53 จำเลยทั้งสาม ร่วมกันจัดทำแผ่นปลิวโฆษณาที่ระบุว่า มีเครือข่ายของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ส่อล้มล้างสถาบันเบื้องสูง จากนั้นได้นำไปแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และสื่อมวลชลทั่วไปเพื่อประกอบการแถลงข่าวว่า โจทก์เป็นบุคคลหนึ่งในขบวนการจาบจ้วง และต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นการใส่ความโจทก์ เพราะความจริงแล้วโจทก์เลื่อมใสในการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โจทก์มิได้เป็นเครือข่ายขบวนการจาบจ้วง หรือ ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่พวกจำเลยกล่าวอ้าง การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทางกฎหมาย จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาทุจริต ปฏิบัติโดยมิชอบ เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ศาลรับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ต่อไป
ขณะที่นายสุธาชัย กล่าวว่า ตนโดนใส่ความว่าเป็นคนร้ายมีชื่ออยู่ในแผนผังของกระบวนการล้มเจ้า ซึ่งตนขอปฏิเสธว่าไม่เคยหรือไม่มีพฤติกรรม ในการล้มสถาบัน การที่ศอฉ.ทำแบบนี้ เพื่อต้องการจะใส่รายป้ายสี หรือหาเหตุผลในการสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
"ผมไม่ทราบว่าผมไปมีชื่ออยู่ในกระบวนการล้มเจ้านั้นได้อย่างไร คือในผังนั้นโยงอยู่ 2 เรื่อง คือการที่ผมไปประกันตัวคุณดา ตอร์ปิโด ต่อให้คุณดาเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าผมนั้นหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วย ประเด็นที่ 2 คือ ไม่ว่าคุณดาจะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ศาลจะต้องตัดสิน แต่ผมคิดว่ามันไม่ได้พิสูจน์ว่ามีกระบวนการล้มเจ้า คือผมไม่เห็นด้วยกับการใช้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาทำลายกันในประเด็นทางการเมือง" นายสุธาชัย ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ นายสุธาชัย ยังได้เดินทางไปยัง ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ กับพวก เป็นคดีดำที่ 1642/2553 เรื่องละเมิดจากกรณีเดียวกัน เรียกค่าเสียหายจำนวน 300,544 บาทอีกด้วย โดยศาลแพ่งรับคำฟ้องไว้แล้วจะมีคำสั่งในการพิจารณาต่อไป
-----------
(ก่อนหน้านี้)
“สุธาชัย” ซัด “เครือข่ายล้มเจ้า” ใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ หวังปราบหนักเหมือน6ตุลา เตรียมฟ้องศอฉ.สัปดาห์นี้
มติชนออนไลน์, 28 เม.ย. 2553
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีรายชื่อปรากฏอยู่ในแผนผังของ “เครือข่ายล้มเจ้า” ที่ศอฉ.นำมาเผยแพร่ ได้ทำหนังสือแถลงการณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นและระบุว่าเตรียมจะดำเนินการฟ้องร้อง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ ศอฉ. โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
อนุสนธิ์จากการที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกของ ศอฉ.ได้แถลงข่าวในวันจันทร์ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๓ โดยกล่าวถึงเครือข่ายที่มีการส่อถึงการล้มสถาบันเบื้องสูง ปรากฏว่าในแผนผังของเครือข่ายกลุ่มบุคคลที่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวถึง ได้ปรากฏชื่อของข้าพเจ้า สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อยู่ในเครือข่ายนั้นด้วย และทำให้พี่น้อง เพื่อนฝูง โทรมาถามข่าวว่า เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร จากนั้น ต่อมา ในวันที่ ๒๗ เมษายน รายการต่างๆ ทางวิทยุ และโทรทัศน์ก็
นำเอาข่าวและแผนผังนี้มาเผยแพร่ และมีรายการบางรายการ ได้โจมตีกลุ่มบุคคลที่ปรากฏชื่อในแผนผังอย่างรุนแรง เป็นการจงใจบิดเบือนให้ร้าย โดยไม่ไต่ถามที่มา หรือข้อเท็จจริงแต่อย่างใด และ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังออกมาแถลงต่อด้วยซ้ำ ว่าจะออกหมายจับตามรายการนี้อีกด้วย
ในกรณีเช่นนี้ ข้าพเจ้า ในฐานะครูสอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่คงจะไม่มีมหิทธานุภาพที่จะไปต่อกรอำนาจกับ ศอฉ.ได้ แต่ข้าพเจ้าก็มีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องสิทธิของตนเอง ก่อนที่จะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรกทางการเมืองที่มากกว่านี้ ข้าพเจ้าจึงต้องขอแถลงดังนี้
๑. ข้าพเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า เครือข่ายที่มีพฤติกรรมล้มสถาบันใดๆ และไม่เห็นด้วยว่า จะมีเครือข่ายอะไรในลักษณะเช่นนี้ นอกจากการใส่ร้ายป้ายสีที่ ศอฉ.สร้างขึ้นมาเอง เพื่อทำลายล้างทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่กำลังต่อต้านและเรียกร้องรัฐบาลให้ยุบสภา
๒. ข้าพเจ้าจะขออำนาจศาลเพื่อคุ้มครองในกรณีที่อาจจะเกิดภัยจากการถูกใส่ร้ายในข้อหาร้ายแรง
๓. เพื่อที่จะปกป้องสิทธิของข้าพเจ้า ก็จะดำเนินการฟ้องร้องแก่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ ศอฉ. โดยจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่งภายในสัปดาห์นี้
ข้าพเจ้าเห็นว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ คือความพยายามของ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะใส่ร้ายป้ายสีผู้บริสุทธิ์ ทำลายสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชน และนำเอากรณีล้มล้างสถาบันมาเป็นเครื่องมือ ที่จะกวาดล้างปราบปรามประชาชนเช่นในกรณี ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ซึ่งการกระทำเช่นนั้น คงไม่อาจจะชอบธรรมได้ จึงมีความเห็นว่า รัฐบาลจะต้องเลิกภาวะฉุกเฉินโดยทันที คืนเสรีภาพแก่สื่อมวลชน ต้องยุติการโฆษณาให้ร้ายป้ายสีเรื่องขบวนการล้มเจ้า และหาทางแก้ไขปัญหาการเมืองโดยสันติวิธี จึงจะเป็นหนทางอันถูกต้อง
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
วิชาประวัติศาสตร์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
---------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น